เรียนจีนแล้วได้อะไร : 学习中文给自己带来了什么改变?

การเรียนภาษาจีนนำพาความเปลี่ยนแปลงอะไรให้กับชีวิตบ้าง
学习中文给我自己带来了什么改变?

บอกเล่าประสบการณ์การเรียนภาษาจีน การเรียนภาษาจีนนำความเปลี่ยนแปลงอะไรมาสู่ชีวิตบ้างและประโยชน์ที่ฉันได้รับจากการเรียนภาษาจีนอย่างที่คาดไม่่ถึงง!

                สวัสดีค่ะมาพบกันอีกเช่นเคยนะคะ ในการบอกเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการเรียนภาษาจีน ในวันนี้หัวข้อที่จะเล่าคาดว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนไม่ควรพลาดที่จะอ่านและอยากจะให้ทุกคนได้อ่านให้จบนะคะ เพราะว่าวันนี้เฟินตั้งใจมากๆที่จะมาเล่าเรื่องราวของตัวเองว่า “เมื่อฉันเรียนจีน แล้วฉันได้อะไรจากภาษาจีนบ้าง” ขอให้ทุกคนได้ลองอ่านและเปิดใจให้กับเรื่องราวที่เฟินจะนำเสนอในวันนี้นะคะ

ก่อนอื่นขออารัมภบทถึงเหตุที่ตัดสินใจเรียนภาษาจีนก่อนค่ะว่า ย้อนกลับไปเมื่อสมัยมัธยมเคยเรียนภาษาจีนครั้งแรกกับครูจีนท่านหนึ่ง น่ารักและสวยมากๆ ชื่อว่าอาจารย์ สุ่ยผิง อาจารย์ให้เหรียญเป็นของรางวัล (ทุกวันนี้ยังคงเก็บไว้) ทำให้เฟินชอบภาษาจีนมากและตั้งใจมาตลอดเลยค่ะว่า เมื่อเข้ามหาวิทยาลัยจะต้องเรียนเอกภาษาจีนให้ได้ ตลอดหกปีในวิชาภาษาจีนเฟินจึงไม่เคยไม่ได้เกรดสี่และเคยทำคะแนนเก็บได้สูงสุดถึง 99/100 คะแนน (ตั้งใจมากจริงๆ) แต่ทว่าตอนม.4 …. เฟินได้ดูหนังเรื่องหนึ่งคือคู่กรรม (โกโบบี้-หนูนา ) อะไรดลจิตจลใจให้ฉันอยากเป็นอังศุมาลินไม่รู้ค่ะ เฟินเปลี่ยนแนวตัวเองและหันหน้าเข้าสู่การเรียนภาษาญี่ปุ่นและภาษาไทยอย่างเข้มข้น   แต่จนแล้วจนเล่า คันจิ กลายเป็นอุปสรรคขั้นสุดในการเรียนญี่ปุ่น สุดท้ายเฟินเลือกเรียนสาขาการสอนภาษาไทย เพราะคิดว่าในอนาคตสาขานี้ครูคงขาดแคลนแน่นอนบวกกับคิดว่าเราเป็นคนที่ชอบงานวรรณกรรม ภาษาไทยก็น่าจะไม่ใช่ทางที่เลือกผิดแน่นอน

ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยเฟินได้ไปทำงานพาร์ททามและได้พบกับคนจีนมากมาย ทัวร์ลงที่โลตัสเอกเพรสทุกวันนนน เฟินเลยใช้ภาษาจีนแบบงูๆปลาๆที่เคยเรียนมาคุยกับพวกเขา บางทีก็อึดอัดที่สื่อสารได้ไม่เต็มที่ค่ะ นั่นจึงเป็นจุดที่ทำให้เราหันเข้าไปหาภาษาจีนโดยการตั้งใจว่าจะเริ่มต้นที่จะเรียนภาษาจีนอีกครั้ง โดยการโหลดแอพพลิเคชั่นต่างๆ กรุ๊ปเรียนภาษาจีน ทำให้เราได้เพื่อนบนโลกออนไลน์ที่เรียนด้วยกันและรู้จักที่จะใช้ภาษาจีนขึ้นมาบ้าง และพอเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยเฟินก็ยังไม่พ้นชะตาลิขิตให้พบเจอกับคนจีนอีก เพราะในมหาวิทยาลัยมีคนจีนเยอะมาก (ม.ขอนแก่น) และพวกเขามาเรียนภาษาไทย!

ตอนไปเรียนคณะมนุษยศาสตร์อาจารย์ท่านหนึ่งจะชอบเล่าเรื่องนักศึกษาจีนที่เรียนให้พวกเรารู้สึกละอายใจและแอบสะดุ้งอยู่บ่อยครั้งเช่น นักศึกษาจีนเขามีความขยันแล้วก็ใฝ่เรียนกว่าพวกเธอร้อยพันเท่า และเม้าท์มอยเรื่องการบินไปมาสอนภาษาไทยให้นักศึกษาจีนให้ฟัง เราก็ได้แต่ฟังแล้วก็คิดตาม นี่ถ้าเราเป็นครูภาษาไทยแล้วสอนคนจีนด้วยเหมือนอาจารย์ก็คงดีสินะ แล้วเพื่อนคนหนึ่งที่รู้จักกัน (ในความคิดเราตอนนั้นเราคิดว่านางเก่งจีนมากๆและแอบปลื้มสุดๆ) บอกกับเราว่า ถ้าอยากเรียนรู้ภาษาจีนจริงๆ ก็ต้องเอาให้มันเด็ดขาดไปเลย ฉันอยากให้เธอสอบ HSK4 ให้ผ่าน ตอนนั้นลังเลมากและคิดว่าตัวเองทำไม่ได้แน่นอน เพราะลำพังเรียนวิชาเอกของตัวเองก็หนักมากกกกกกกกกก โดยเฉพาะเรียนครูแล้วนั้นอย่าได้พูดเลย

สุดท้ายแล้วเฟินจึงได้ตัดสินใจเรียนอย่างจริงจังโดยการเทคครอสเรียนพิเศษตัวต่อตัวและเลือกเรียนวิชาเสรีที่ขงจื่อสองเทอม โชคดีที่ว่าอาจารย์โหดและไม่ยอมปล่อยเราไปง่ายๆ เฟินใช้เวลาเรียนแบบเทคครอสสองปีกว่าและสิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้ว่าเฟินเรียนแล้วเป็นผลนั่นคือเฟินสอบผ่าน HSK 5 และ HSKK 中级 ค่ะ (ทำให้เฟินเห็นแล้วว่าไม่ว่าจะเรียนไม่เรียนเอกจีนถ้าทุ่มเทจริงไม่ได้ผ่านแค่ 4 แน่นอนค่ะ) กลายเป็นว่าภาษาจีนได้เป็นส่วนสำคัญในชีวิตของเฟินที่ทำให้เฟินเรียนจบเอกภาษาไทยมาได้อย่างภาคภูมิ ต้องบอกเลยว่าเหมือนเราเรียนเอกภาษาไทยที่การงาน การเรียน รวมถึงการใช้ชีวิตเกี่ยวข้องกับภาษาจีนมากกว่าการใช้ภาษาไทยเสียอีก

ช่วงที่หนักที่สุดในชีวิตคือการเรียนเอกตัวเองไป เรียนภาษาจีนข้างนอกแล้วก็ที่ขงจื่อ และยังต้องสอนพิเศษไปด้วย (ภาพจำตัวเองในช่วงนั้นทรหดอดทนมาก) แต่เชื่อไหมคะว่า การเรียนภาษาจีนกลับไม่เป็นผลกระทบกับวิชาหลักของตัวเองเลยแม่แต่น้อย ทำให้ปีที่สองเฟินได้ 4.00 และ 3.96 มาเพราะตอนนั้นมีคติที่ว่า เพราะเราต้องทำหลายอย่าง ดังนั้นควรที่จะต้องทำทุกอย่างให้ดี อดทนเข้าไว้แล้วมันจะผ่านไปได้เฟินอดทนมาสี่ปีค่อนห้าปีได้ค่ะ ใครก็ไม่อยากเชื่อใช่ไหมคะว่าเรียนเอกภาษาไทยจะทำให้เรียนภาษาจีนได้ดีด้วยได้ยังไงกัน แต่สิ่งที่เป็นประจักษ์ในท้ายที่สุดก็คือเฟินเรียนจบด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ซึ่งส่วนหลักๆ ก็คงมาจากการที่เราแบ่งเวลาและเต็มที่กับทุกเรื่องทำให้ไม่มีอะไรกระทบกับเรื่องอื่นๆได้ แต่สิ่งที่เฟินได้จากภาษาจีนมันมีอะไรกว่าคำว่า “ได้ความอดทน” หรือ “ได้สอบ HSK” และสิ่งที่เฟินจะพูดต่อไปนี้คือสิ่งที่เฟินได้จริงๆ และไม่รู้สึกเสียดายเวลาที่เสียไปกับความพยายามเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย

1.ภาษาจีนทำให้เฟินสร้างรายได้ราวๆ 300,000 บาทในระยะเวลา 3 ปี   
เฟินได้เงินมาจากการใช้ภาษาจีนการสื่อสารก่อนที่จะเข้ามามหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ เพราะต้องคุยกับคนจีน และภาษาจีนเป็นส่วนช่วยในการทำงานพาร์ททามให้สำเร็จ ยิ่งไปกว่านั้นแล้วเฟินได้รายได้จากการสอนพิเศษเป็นรายชั่วโมงและรายครอส แรกเริ่มที่สอนก็ไม่คิดว่าจะสอนภาษาจีนแต่พอน้องๆ ที่เรียนด้วยเห็นว่าเฟินพูดภาษาจีนได้จึงขอให้ช่วยสอนให้และบอกต่อกันปากต่อปาก วิชาสอนจึงสอนภาษาจีนเป็นหลักโดยรายได้อยู่ที่ประมาณ 10,000 ขึ้นไปต่อเดือนค่ะ การคิดค่าครอสเฟินคิดตามอายุค่ะ เด็กจะถูกหน่อยและผู้ใหญ่ก็จะยากขึ้นหน่อย เฟินได้สอนคนหลายประเภทตั้งแต่เด็กอนุบาล ประถม มัธยม มหาวิทยาลัย และวัยทำงาน สิ่งที่ท้าทายมากกว่านั้นคือ เรามักจะกลายเป็น Best of choice เสมอเพราะเรามีความรู้ในการสอนภาษาไทยโดยตรงและสามารถใช้ภาษาจีนในการสื่อสารได้ เฟินเคยถูกเลือกให้ไปสอนภาษาไทยให้ผู้บริหารหัวเหว่ยรายชั่วโมงละ 300 บาทอยู่ช่วงหนึ่งค่ะ และก็ได้สอนภาษาไทยให้คนจีนตลอดมาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ จากการคำนวณคร่าวๆในการสอนพิเศษทั้งหมดสามปีแล้วน่าจะได้รายได้โดยรวมไม่น้อยกว่า 350,000 บาทค่ะ

2. ภาษาจีนทำให้เฟินได้ไปต่างประเทศ  
เฟินได้มีโอกาสไปต่างประเทศทุกปีค่ะ ทั้งที่ไปเที่ยวกับคุณน้าแล้วก็ได้รับทุนคัดเลือกให้ไป ครั้งแรกที่ถูกคัดเลือกคือให้ไปที่ญี่ปุ่นค่ะ โดยตอนที่เขียน assay เฟินเขียนไปว่าสามารถอ่านคันจิออกและคันจิเหมือนกับตัวภาษาจีน พอไปที่นั่นก็ได้เจอเพื่อนญี่ปุ่นที่เรียนจีนเหมือนกันค่ะ ตอนที่ไปสิงคโปร์ก็ใช้ภาษาจีนคุยกับคนสิงคโปร์ และโอกาสที่สำคัญคือได้รับคัดเลือกให้ไปแลกเปลี่ยนที่ม.เซาท์เวสต์ครึ่งเดือนแบบฟรีๆ มีความสุขมากค่ะตอนไปจีนครั้งนั้นสัมผัสได้ว่าการเรียนภาษาจีนไม่เคยสูญเปล่าจริงๆ จีนมีความเจริญมากๆทั้งด้านวิทยาการเทคโนโลยี ผสมผสานกับวัฒนธรรมของชนชาติเอาไว้อย่างลงตัว สิ่งที่ชอบที่สุดคืออาหารจีนแล้วก็คนจีนค่ะ

3. ภาษาจีนทำให้เฟินได้เพื่อนซี้เป็นคนจีน
เฟินมีเพื่อนซี้ที่เป็นคนจีนมาเรียนที่ไทยค่ะ เหมือนเป็นเพื่อนเกลอ เพื่อนตายกันเลยก็ว่าได้ เฟินคลุกคลีกับเขาตั้งแต่มาเรียนป.โทเทอมแรกจนจบป.โทไปก่อน รักกันและสนิทกันมากๆ คนจีนถ้าได้คบกันคือคบกันจนฝากผีฝากไข้เลยก็ว่าได้ เพื่อนเป็นคนที่คอยช่วยเรื่องคำถามที่เกี่ยวข้องกับภาษาจีน รวมถึงปัญหาหัวใจ ปัญหาจิปาถะต่างๆเราก็คุยกันอย่างเปิดอกและไม่กังขาซึ่งกันและกันค่ะ ถึงไหนถึงกันนอกจากนี้คือคนจีนมีความจริงใจและมีน้ำใจต่อกันแบบมากถึงมากที่สุดเลยละค่ะ

4. ภาษาจีนทำให้เฟินได้มีโอกาสไปช่วยสอนนักศึกษาจีนที่มาเรียนที่ไทย   
เฟินได้ถูกไหว้วานให้ไปช่วยสอนและช่วยแปลอยู่หนนึงที่คณะมนุษย์ฯค่ะ เป็นการท้าทายตัวเองที่สอนเพื่อนอายุเท่ากันและเป็นนักศึกษาที่มาจากจีน จากนั้นนักศึกษาก็ขอคอนแทคและช่วยให้คำอธิบายเวลานักศึกษาถามเกี่ยวกับภาษาไทย ช่วยตรวจทานความถูกต้ององงานและวิจัยที่นศ.เขียนก่อนส่งอาจารย์ ถือเป็นอะไรที่ชอบมากค่ะเพราะได้เรียนรู้สิ่งที่พวกเขากำลังศึกษาไปด้วยแล้วก็ตอนที่เคยสอนผบรห.หัวเหว่ยเฟินใช้ภาษาจีนเขียนเอกสารการสอนภาษาไทยให้คนจีนด้วยตัวเอง นี่คือการจุดประกายความฝันเล็กๆของตัวเองที่อยากจะทำให้เกิดขึ้นจริงต่อไปในอนาคตวันข้างหน้าค่ะ

5. ภาษาจีนทำให้เฟินกลายเป็นนักร้อง  
เรื่องนี้ค่อนข้างตลกและเกิดขึ้นแบบงงๆ เมื่อจู่ๆอาจารย์สาขาภาษาจีนหาตัวคนไปช่วยคณะศิลปกรรมร้องเพลงภาษาจีนไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าเนื้อเพลงมันร้องว่าอย่างไร ตอนนั้นขึ้นไปร้องแค่ไม่ถึง 1 นาทีด้วยซ้ำ แต่แต่งตัวสวยมากๆ ชอบๆ 55555

6. ภาษาจีนทำให้เราไม่ต้องรอซับไต้เติ้ล  
การที่พอเราเรียนรู้ภาษาจีนได้ระดับที่สามารถดูหนังโดยไม่ต้องมีซับเฟินใช้เวลาไม่นานมากเลยนะคะ นั่นก็มาจากการที่เราดูหนังแบบมีซับมาก่อนนั่นแหละค่ะ และการที่เราไม่รอซับเราก็ดูหนังเรื่องไหนก็ได้โดยที่ไม่ง้อใครและดูได้พร้อมๆกับคนจีนเลยค่ะ เวลาที่เขาอัพเดทหนังเรื่องใหม่ๆ เราก็ไม่พลาดไปด้วย

7. ภาษาจีนทำให้เราได้ฝึกการเข้าหาคนอื่นมากขึ้น    
เพราะว่าการเรียนภาษาจีนที่ดีคือการเอาไปใช้ อย่างที่เคยพูดไว้ในโพสต์เรียนจีนอย่างไรให้สำเร็จ ตอนที่ 1 ความกลัวที่ไม่น่ากลัวนะคะ คือภาษาจีนทำให้เราได้เข้าไปพูดคุย คบค้าสมาคม มีสังคมที่กว้างขึ้น ได้รู้จักนิสัยใจคอของความเป็นคนจีนมากขึ้น รู้จักความเป็นมิตร เรารู้ที่จะวางตัวให้เหมาะสม รู้จักมารยาทในการใช้คำพูด รู้ถึงการรักษาคำพูด 说话算话แม้ว่าเราจะรู้ว่าพูดอย่างไรแต่เราได้ซึมซับเรื่องของการถนอมน้ำใจคนอื่นมาจากคนจีนและผ่านการใช้ภาษาจีนอย่างไม่รู้ตัวเลยค่ะ

8.ภาษาจีนทำให้รู้จักความลึกซึ้งและความมหัศจรรย์ของภาษาจีน 
ภาษาจีนคือการเรียนรู้ที่ไม่รู้จบเพราะมีอะไรอีกมากมายนับไม่ถ้วนที่ไม่มีวันเรียนรู้จบ งานวรรณกรรม งานเขียนต่างๆของจีนมีความงดงาม ลึกซึ้งในการใช้ภาษามาก ในฐานะที่ชอบอ่านงานวรรณกรรมทั้งภาษาไทยและภาษาจีนทำให้รู้ค่ะว่า ภาษาจีนมีความงดงามละมีความซาบซึ้งในสุนทรียอารมณ์ มีความยากแต่แฝงไปด้วยเสน่ห์ มีความหมายและแยบคาย นี่คือจุดหมายสูงสุดของการเรียนภาษาอย่างมีศิลปะคือการค้นพบความงดงามของภาษานั่นเองค่ะ

                เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ขอบคุณมากๆเลยนะคะที่อดทนอ่านจนจบ สิ่งเหล่านี้ที่เล่ามาคือเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นและได้จากการเรียนภาษาจีนอย่างจริงจังของเฟินค่ะ สำหรับเฟินแล้วภาษาจีนนำความมหัศจรรย์ เรื่องเล่า เรื่องราวต่างๆมากมายที่ย้อนกลับไปคิดถึงก็มีความสุขมากๆ ทุกวันนี้ขอบคุณตัวเองที่เลือกเรียนภาษาจีนและมุ่งมั่นตั้งใจมาโดยตลอด ไม่ย่อท้อและเชื่อมั่นในความพยายามของตัวเองเสมอ เฟินเชื่อว่าทุกคนจะต้องพบกับสิ่งดีๆที่รอเราอยู่ เพราะการตัดสินใจเรียนภาษาจีนก็เท่ากับการอ้าแขนรับรางวัลอีกมากมายให้กับชีวิต เฟินเป็นกำลังใจให้ทุกคนสู้ๆ และจะคอยตอบคำถามทุกครั้งทุกประเด็นที่สงสัยเลยนะคะ ประตูภาษาจีนคือประตูบานเดียวกันที่นำพาเราไปรู้จักกับโลกกว้างใหญ่ที่เราไม่รู้จัก เฟินเป็นเพียงคนธรรมดาคนนึงที่คิดว่าตัวเองต้องสู้โดยที่ไม่ยอมแพ้แม้ไม่รู้ว่า วันแห่งเส้นชัยนั้นจะมาถึงเมื่อไหร่ และเชื่อว่าทุกคนทำได้ เพียงแค่ศรัทธาในตัวเองและทำมันให้เกิดขึ้นจริง เพราะความฝันจากการเรียนรู้ภาษาจีนย่อมจะเกิดขึ้นจริงกับทุกคนอย่างแน่นอนค่ะ 大家加油!

 

 

© 版权声明
THE END
喜欢就支持一下吧
点赞6 分享
Reply 抢沙发
图片正在生成中,请稍后...