How to เรียนจีนอย่างไรให้สำเร็จตอนที่ 3 “แน่วแน่ในความฝัน” :我为了成功第二 3 集

How to เรียนจีนอย่างไรให้สำเร็จตอนที่ 3 “แน่วแน่ในความฝัน” :我为了成功第二 3 集

บางครั้งคนรอบตัวเราอาจไม่มั่นใจในตัวเราว่า เราจะเรียนภาษาจีนไปเพื่ออะไร? และก็ไม่คิดด้วยว่าเราจะได้อะไรจากมัน เฟินคือคนหนึ่งค่ะที่ถูกคนอื่นมองข้ามความตั้งใจอันเล็กๆ ของเราว่า “ความฝันและความตั้งใจของเราเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้” เฟินเคยคิดว่าเอกที่เฟินเรียนเป็นเอกที่ไม่ค่อยเหมาะกับตัวเองเท่าไหร่นัก เทอมแรกเลยบอกกับพ่อและแม่ว่า “อยากซิ่วไปเรียนเอกภาษาจีนหรือบริหารระหว่างประเทศ” เพราะใจตัวเองลึกๆ ก็ชอบภาษาอื่นๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และการเรียนเทอมแรกเฟินได้เกรดน้อยมากๆแบบไม่เคยได้เกรดน้อยขนาดนี้มาก่อนเลยท้อแท้ใจค่ะ สำหรับแม่เป็นคนที่ตามใจเรามากๆค่ะ และเชื่อมั่นในตัวเราตลอดเลยไม่ค่อยทัดทานอะไรเราเท่าไหร่นัก ในทางตรงกันข้ามคือพ่อจะคอยปรามไว้เวลาที่เราคิดจะทำอะไรบางอย่าง เฟินเลยขอเงินแม่เรียนภาษาจีนควบไปกับเรียนเอกของตัวเองแทนการซิ่วไปเรียนปีหนึ่งใหม่ (ไม่รู้ว่าแม่คิดอะไรอยู่และแม่ก็ให้เรียนภาษาจีนจริงๆ ?) ภาพจำที่มีญาติบอกกับเราในวันนั้นที่ว่า “พี่ไม่เห็นด้วยเท่าไหร่นะ การจับปลาสองมือมันเป็นสิ่งที่ไม่ดี ไม่ต้องเรียนหรอก ทำสิ่งที่เราต้องทำให้เต็มที่ก็พอ” นั่นเป็นภาพความห่วงใยและความหวังดีของคนในครอบครัวที่เฟินได้รับวันนั้นยังชัดเจนอยู่ในหัวใจทุกครั้งที่นึกขึ้นได้ วันนั้นเฟินร้องไห้ด้วยความกดดันที่เราต้องสู้ต่อกับการเรียนในสิ่งที่เลือกไปแล้ว ภายหลังมาเฟินคิดว่านับเป็นความโชคดีอย่างหนึ่งที่ทำให้เราได้พิจารณาและไม่ทำอะไรวู่วามก่อน แต่ตอนนั้นใจที่จะเรียนมันไปตั้ง 80 เปอร์เซ็นต์และเฟินได้ยินแต่เสียงเรียกร้องของตัวเองดังกว่าคำแนะนำของทุกคนและเชื่อมั่นว่าตัวเองจะต้องทำให้ได้ ความเด็ดเดี่ยวของเฟินในวันนั้นทำให้เฟินสามารถก้าวข้ามคำทัดทานของทุกคนจนทำให้เราผ่านทุกอย่างมาได้ด้วยดี นั่นก็เป็นเพราะว่า “เราแน่วแน่ และรู้ดีว่าเราต้องการที่จะเรียนภาษาจีนไปเพื่ออะไร”
  1. ถนนพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน : ในตอนแรกของการตัดสินใจเรียน อาจจะมีบางคนที่คอยดูว่าเราจะไปได้ไกลสักเท่าไหร่ แต่ช่วงเวลาของการเริ่มต้นการเรียนไม่สามารถจะตัดสินได้เลยว่า เราจะไปได้ไกลแค่ไหน มีแต่ใจเราเท่านั้นที่จะไปได้ต่อไปเรื่อยๆ และเชื่อมั่นว่าตราบใดที่เราไม่หยุดที่จะไปต่อ ตราบนั้นเราจะไปได้ไกลเสมอ การเรียนรู้ภาษาจีนเป็นวิชาที่ต้องใช้ความอดทนและความต่อเนื่องจึงจะสามารถเรียนได้อย่างบรรลุผล วันเวลาที่ผ่านพ้นไปในแต่ละวินาทีกับการพัฒนาความรู้ภาษาจีนเราไปอย่างไม่หยุดยั้งห็ย่อมให้เราเปลี่ยนเป็นอีกคนที่รู้จักภาษาจีนได้มากยิ่งขึ้น และยิ่งนานเท่าไหร่ภาษาจีนของเราก็จะยิ่งดีขึ้นแน่นอน จนกระทั่งในสักวันหนึ่งสิ่งที่เราพากเพียรมาย่อมเป็นผลได้ในสักวัน อย่างไรก็ตามแม้ว่าเวลาจะเป็นตัวแปรสำคัญของพัฒนาการเรียนภาษาจีน แตยิ่งไปกว่านั้นคือการให้เวลาสำหรับการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เกมือนกันกับการเริ่มต้นของเฟินไม่มีใครเห็นด้วยที่จะให้เรียนทั้งเอกของตัวเองไปพร้อมเรียนภาษจีนและไม่คิดว่าเราจะเรียนได้ดีจนในที่สุดเวลาทุกอย่างก็เป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าความพยาายามเรามีค่ามากพอที่จะทำให้สิ่งที่ทุกคนไม่คิดว่าจะเป็นจริงเกิดขึ้นจริงได้
     

  2. ถ้าได้เริ่มต้นแล้วจงอย่าหยุดที่จะไปต่อ : สิ่งหนึ่งที่ทำให้คนที่เรียนภาษาจีนในช่วงแรกๆคิดที่จะหยุดพัฒนาตัวเองก็คือ “ความยาก” แต่ความยากนั้นทำให้เราได้รู้ว่ายิ่งเรียนยิ่งลึกยิ่งค้นหายิ่งท้าทาย เมื่อใดก็ตามที่เรามีแวปหนึ่งที่คิดว่าฉันสู้ไม่ไหวกับความยากของภาษาจีนต่อไปอีกแล้ว ให้พึงระลึกไว้เสมอว่า ความคิดเหล่านั้นคือเครื่องพิสูจน์ความแกร่งของเราว่าเราจะสู้ไปได้มากเท่าไหร่ จริงๆแล้วการเรียนรู้ทุกอย่างก็ย่อมจะมีความยากของมันที่เราต้องค้นพบวิธีการบางอย่างว่าเราจะสามารถอยู่กับความยากที่ว่านั้นอย่างไรให้มีความสุข เหมือนกับที่ได้กล่าวไปในตอนที่หนึ่งคือการเซ็ทความคิดของเรา เมื่อเราคิดดีก็ย่อมจะเป็นพลังให้เราสู้ต่อไปอย่างไม่ท้อถอย เมื่อการเริ่มต้นของเราได้ออกตัวไปแล้ว เราจะไม่มีวันย้อนกลับไปเสียเวลานับหนึ่งให้กับสิ่งอื่น เฟินเองเคยเริ่มเรียนโดยการท่องคำศัพท์ในช่วงหนึ่ง 1200 คำ เคยท้อเคยถอดใจมาหลายต่อหลายครั้งถึงขั้นที่ว่าเราคงเรียนภาษาจีนไม่รู้เรื่องจริงๆ แต่กระนั้นเฟินรู้สึกเสียดายมาก หากจะต้องล้มเลิกกลางคันทั้งๆที่ยังไม่เห็นผลลัพธ์จากความพยายามเหล่านั้นเสียก่อน อาจมีบางครั้งที่ อาจต้องพักบ้าง ต้องให้เวลากับตัวเองได้ผ่อนคลายบ้าง แต่เราจะไม่มีวันหยุดที่จะเรียนรู้อย่างเด็ดขาด เมื่อได้เริ่มก็จงอย่าหยุด คนที่ไม่หยุดที่จะพัมนาตัวเอง คือคนที่ไปได้ไกลกว่าเสมอ

  3. “อย่าฟังคำคน อย่าสนใจใคร อย่าเปลี่ยนแนว” : เราย่อมรู้แก่ใจว่าเราเรียนไปทำไม แม้ในบางครั้งเราไม่สามารถที่จะอธิบายให้กับทุกคนฟังได้ว่าเราจะเรียนภาษาจีนไปเพื่ออะไร แต่สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งเลยนั่นก็คือการที่เราจะต้องมั่นใจในความคิด ความพยายามและเป้าหมายของตัวเอง เคยมีคนดูถูกมาหลายต่อหลายครั้งอีกทั้งยังหัวเราะว่าภาษาจีนเรียนไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะประเทศจีนเป็นประเทศที่หล้าหลัง ทำอะไรกับคนจีนก็ไม่ขึ้น เฟินเองก็ได้แต่แอบยิ้มอยู่ในใจกับความรู้ไม่จริงของพวกเขา และได้แต่ฟังหากทว่าไม่ได้นำมาใส่ใจ เพราะเราย่อมรู้ดีก่อนที่เราตัดสินใจที่จะทำอะไรอยู่แล้ว และเราได้ชั่งใจตัดสินใจเพื่อให้โอกาสตัวเองได้พยายามแล้ว การที่ให้ตัวเองได้ทำอะไรมากกว่าการผ่านไปแต่ละวันอย่างไม่มีคุณค่าเป็นเรื่องที่ไม่น่ายินดีเท่ากับการมุ่งมั่นที่จะทำอะไรบางอย่าง ไม่มีใครรู้จักความคิดของเราได้เท่ากับความคิดของเราเอง เชื่อใจของตัวเอง ไม่เปลี่ยนใจ อย่าให้ความคิดหรือคำพูดของใครมาบงการชีวิตของเรา

  4. สิ่งที่เราเลือกไปแล้วแม้ไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดแต่จงอย่าเสียใจในภายหลัง : การเรียนภาษาจีนไม่จำเป็นเลยค่ะที่จะต้องเรียนเอกภาษาจีนอย่างเดียว ไม่ว่าคุณจะกำลังเป็นหมอ ครูวิทยาสาวตา์ เรียรกฎหมาย ชาวไร่ เกษตรกร ชาวสวน การที่เราได้ภาาจีนคือการหาข้อได้เปรียบให้กับตัวเองเพิ่มมาหนึ่งข้อ เหมือนกับการที่เฟินเรียนครูภาษาไทย เฟินเองไม่เคยคิดเสียดายเลยค่ะที่เรียนครูภาษาไทยแล้วมานั่งเสียใจว่ารู้งี้เรียนเอกภาษจีนไปแต่ทีแรกก็ดี ความคิดแบบนั้นไม่เคยเกิดขึ้นเลยแม้สักครั้ง ยิ่งทั้งเรียนครูภาาาไทยไปด้วยและเรียนภาาาจีนให้พยายามมากพอๆกับคนที่เรียนเอกโดยตรงยิ่งเป็นการสร้างข้อได้เปรียบให้กับตัวเอง เหมือนที่เคยได้พูดไว้ครั้งหนึ่งที่มีคนรับสมัครครูสอนภาาาไทยให้ชาวจีน แม้จะมีคนเรียนเอกจีนที่เก่งๆสามารถคุยกับคนจีนได้ดีมากๆ แต่เมื่อเราเป็นครูภาษไทยโดยตรงที่พูดภาาาจีนได้ด้วยท้ายที่สุดแล้วเขาจึงเลือกเรา ทำอาชีพอะไรก็ตามค่ะถ้าตัดสินใจที่จะเรียนภาษจีนย่อมได้ข้อเปรียบต่างเยอะมาก ในส่วนของคนที่ตั้งเป้าหมายไว้สูงมากมันจะมีบางครั้งที่ความพยายามเหล่านั้นไม่สำเร็จผลให้เราเห็นอย่างจริงจังสักที แต่การที่เราเลือกแล้วก็ไม่มีอะไรที่จะต้องเสียใจในภายหลัง การที่เรามานั่งเสียใจให้กับวันเวลาที่ทุ่มเทให้กับภาศาจีนแต่ยังไม่เห็นว่าจะเป็นผลดีอะไรขึ้นมาที่ได้ใช้ความพยายามและวันเวลาเพื่อการเรียนภาษาจีน คือการดูถูกตัวเองว่าเราจะเป็นคนที่เรียนให้สำเร้จไม่ได้ แต่ในมุมมองนี้ถือว่ามีน้อยมากๆเลยนะคะที่คนตัดสินใจเรียนภาษาจีนแล้วจะมานั้งเสียใจหรือพูดว่า “ไม่น่ามาเรียนภาษาจีนเลย” “รู้งี้เรียนภาษาอย่างอื่นดีกว่า” ถือว่าน้อยมากๆค่ะที่ทีคนพูดแบบนี้ สำหรับคนที่ตัดสินใจเรียนภาาาจีนรับรองได้เลยค่ะว่ายิ่งเรียนยิ่งสนุกค่ะ ภาษจีนมีอะไรให้เราได้ฝึกฝนหลายอย่าง ดูหนังเอย ดูละครเอย ดูทีวีเอย อาจมีบ้างที่เราเห็ยว่ามีส่วนยาก ต่ถ้าเราได้พนายามและฝึกฝนอย่างต่อเนื่องก็จะเห็นผลได้ในสักวัน สิ่งที่เราเลือกแล้วบางครั้งเราอาจมาคิดว่า ถ้าเราเลือกสิ่งนี้ตั้งแต่แรกก็คงดีกว่านี้หรือสิ่งนี้น่าจะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา แต่มันคือสิ่งที่ใช่เราควรที่จะมองข้อดีมากกว่าที่จะนั่งมองข้อเสีย เพราะการมองสิ่งที่เหลือนั่นแหละคือการมองหาสิ่งที่ดีๆที่ซ่อนอยู่

  5. ทำทุกอย่างให้ค่อยๆ ชัดเจน : ชัดเจนในที่นี้คือ การเรียนแล้วเอาไปต่อยอด เช่นเราเอาไปฝึกเขียน ฝึกพูดให้สอดคล้องกับสิ่งที่เราสนใจเมื่อเราเรียนภาาจีนไปมนระดับหนึ่งเราควรมองหาสิ่งที่ใช่สิ่งที่เหมาะกับตัวเองวา เราจะนำภาษจีนไปใช้ประโยชน์กับตัวเองได้อย่างไร เช่น นำไปใช้สอน นำไปศึกษาเพิ่มเติมในแขนงวิชาที่ตัวเองสนใจ ด้สนธุรกิจ การศึกษการแพทย์ฯลฯ ซึ่งในการหาจุดมุ่งหมายโดยการเลือกสิ่งที่ใช่ให้กับตัวเอง โดยวิธีการเลือกสิ่งที่ใช่ให้กับตัวเองนั้นเฟินจะกล่าวในสเต็ปถัดไปในหัวข้อตอนจบตอนถัดไปค่ะ (รอติดตามกันนะคะ)
พอถึงทุกวันนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาพร้อมๆกับสิ่งที่ได้มากกว่าสิ่งที่เสียไป ความสำเร็จไม่เคยได้มาฟรี หากเราไม่ทุ่มเทและพยายามมากพอ สิ่งสำคัญไปกว่านั้นคือการที่เราเป็นคนแน่วแน่ไม่ลังเลต่อความคิดของตัวเอง จัดเจนกับทุกเรื่องที่ทำ มีความชัดเจนในเป้าหมายของการเรียน การให้เวลากับความฝันไม่ใช่สิ่งที่เสียเวลา แต่หมายถึงการใช้เวลาเพื่อตัวเองเพื่อเป้าหมายของตัวเอง และเวลาคือเครื่องพิสูจน์ตัวเรา คนที่แน่วแน่ในความฝันและทำมันให้เกิดขึ้นจริงคือคนทีเข้าใกล้ความสำเร็จอยู่ตลอดเวลา เฟินไม่เคยเสียใจหรือเสียดายวันเวลาที่ได้ทุ่มเทให้กับความตั้งใจของตัวเองเลยสักครั้ง มากกว่านั้นคือการได้ใช้ความรู้ที่ได้มาช่วยสอนให้ผู้อื่นมีความรู้และประสบความสำเร็จตามเป้าหมายของการเรียนของเขาเอาไว้อีกด้วย ภาษาจีนอาจจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ส่งเสริมให้งานหลักๆของเราไปได้ดีมากขึ้น ดังนั้นคนที่แน่วแน่เท่านั้นที่จะเรียนได้ดี วันนี้ทุกคนมีเป้าหมายที่แน่วแน่ในใจสำหรับการเรียนภาษาจีนอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับวันนี้เรื่องราวของเรียนจีนอย่างไรให้สำเร็จตอนที่ 3 ก็ขอจบไว้เพียงเท่านี้นะคะ กลับมาพบกันอีกครั้งกับเรียนจีนอย่างไรให้สำเร็จในตอนที่ 4 ตอนสุดท้าย “เลือกสิ่งที่ใช่ให้ตัวเอง” กับการพูดถึงทิศทางของการเรียนภาษาจีนที่เหมาะ ใช่ และไปได้ไกลกว่า สำหรับวันนี้ขอจบไว้เพียงเท่านี้ เจอกันในบทความหน้า และอย่าลืมกดไลต์ กดติดตาม ในช่องยูทูป 5th เรียนจีนไทยไปด้วยกัน และเพจ 5 th.ltd ในเฟซบุ๊คนะคะ ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับการรับชมและอ่ายบทความของเรามากๆค่ะ สวัสดีค่ะ 再见?
© 版权声明
THE END
喜欢就支持一下吧
点赞0 分享
Reply 抢沙发
图片正在生成中,请稍后...